"ผู้สูงอายุ คือบุคคลที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป (พรบ. ผู้สูงอายุแห่งชาติ, 2540) มีการแบ่งเกณฑ์ผู้สูงอายุตามสภาพของการมีอายุเพิ่มขึ้นในลักษณะของการแบ่งช่วงอายุของประเทศไทยดังนี้
ผู้สูงอายุ (Elderly) คือ อายุระหว่าง 60 – 69 ปี
คนชรา (Old) คือ อายุระหว่าง 70 – 79 ปี
คนชรา (Very old) คือ อายุตั้งแต่ 80 ปี ขึ้นไป
ความสุข (Happiness) ในเชิงจิตวิทยา เป็นการวดเฉพาะความอยู่ดีทางอารมณ์ (emotional well – being) โดยวัดรวมเอามิติของสุขภาพกาย (physical health) รวมเข้ามาเป็นบริบทของความอยู่ดี มีสุข (Lyubommirsky ; 2008)
ความสุข 5 มิติเป็นแนวคิดในการสร้างสุขจากหลักธรรมะ ผสมผสานกับแนวคิดการสร้างสุข
เชิงจิตวิทยาและ แนวคิดในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม (อัมพร เบญจพลพิทักษ์และคณะ, 2555)เพื่อทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี โดยสามารถจำแนกความสุขของผู้สูงอายุ 5 มิติ ดังนี้
ด้านที่ 1 : สุขสบาย (Health) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการดูแลสุขภาพร่างกาย
ให้มีสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรง คล่องแคล่ว มีกำลัง สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางกายภาพได้
ตามสภาพที่เป็นอยู่ มีเศรษฐกิจหรือปัจจัยที่จำเป็นพอเพียงไม่มีอุบัติภัยหรืออันตราย มีสภาพแวดล้อม
ที่ส่งเสริมสุขภาพ ไม่ติดสิ่งเสพติด
วิธีส่งเสริมความสุขสบาย : การออกกำลังกายตามศักยภาพของตนเอง วันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เช่น การบริหารร่างกายประจำวัน ฝึกโยคะ ฝึกชี่กง ฝึกการออกกำลังกายในท่าต่าง ๆ
ด้านที่ 2 : สุขสนุก (Recreation) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการเลือกวิถีชีวิตที่รื่นรมย์ สนุกสนาน ด้วยการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดอารมณ์เป็นสุข จิตใจสดชื่นแจ่มใส กระปรี้กระเปรา มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ซึ่งกิจกรรมที่เหล่านี้สามารถลดความซึมเศร้า ความเครียดและความวิตกกังวลได้
วิธีส่งเสริมความสุขสนุก : 1) เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ/กิจกรรมต่างๆ ที่สร้างความสดชื่นความมีชีวิตชีวาอย่างสร้างสรรค์ และดีงาม 2) มีกิจกรรมภายในครอบครัวกับลูกหลาน เช่น ทานข้าว ไปเที่ยว พูดคุยกัน
และ 3) เล่นดนตรี ศิลปะ ปลูกต้นไม้ หรืองานอดิเรกที่ชอบ
ด้านที่ 3 : สุขสง่า (Integrity) หมายถึง ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต ความภาคภูมิใจในตนเอง ความเชื่อมั่นในตนเอง เห็นคุณค่าในตนเองการยอมรับนับถือตนเอง ให้กำลังใจตนเองได้ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
มีลักษณะเอื้อเฟื้อแบ่งปัน และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้อื่นในสังคม
วิธีส่งเสริมความสุขสง่า : 1) ช่วยเหลือตนเองในเรื่องง่ายๆ เช่น กิจวัตรประจำวัน 2) ช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน 3) มีจิตอาสา ให้การช่วยเหลือผู้อื่นในสังคม และ 4) ฝึกทักษะการเป็นผู้ฟังที่ดีหรือผู้ถามที่ดี เช่น
มองประสานตาผู้พูด ตั้งใจฟัง มีสติ และพยายามจับประเด็นสำคัญในสิ่งที่ผู้พูดพูดออกมา ซักถามในจุดที่สงสัยในประเด็นที่เป็นปัญหา ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ฟังตามทันในเรื่องที่ผู้พูดกำลังพูด
ด้านที่ 4 : สุขสว่าง (Cognition) หมายถึงความสามารถของผู้สูงอายุด้านความจำ ความคิดอย่างมีเหตุมีผล การสื่อสาร การวางแผนและการแก้ไขปัญหา ความสามารถในการคิดแบบนามธรรม รวมทั้งความสามารถ
ในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีส่งเสริมความสุขสว่าง : 1) เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน 2) พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ หรือวัยอื่น ๆ และ 3) บริหารสมองอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เช่น การทำกิจกรรมบริหารสมองด้วยสองมือ
ด้านที่ 5 : สุขสงบ (Peacefulness) หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการรับรู้-เข้าใจความรู้สึกของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ และสามารถจัดการกับสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถผ่อนคลาย ให้เกิดความสุขสงบกับตนเองได้ รวมทั้งความสามารถในการปรับตัวยอมรับสภาพสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง (สุจริต สุวรรณชีพ, 2554 และ สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต, 2554)
วิธีส่งเสริมความสุขสงบ : 1) ฝึกการคิดเชิงบวก 2) ฝึกควบคุมอารมณ์ และ 3) ฝึกคลายเครียด/ฝึกหายใจ
อย่างถูกวิธี
"